นี่คือรีวิวสำหรับเกม “Ori And The Blind Forest”
“When cries were met with silence
And hope went astray
When my child’s strength faltered
And the last breath was drawn
My light has revived Ori, a new age has dawned.”
Ori And The Blind Forest เนื้อเรื่องเริ่มจากเราเล่นเป็น Ori ผู้ปกป้องจิตวิญญาณ(Spirit Guardian) และเป็นลุกหลานของต้นไม้แห่งจิตวิญญาณ (Spirit Tree) ที่อยู่ในป่านิเบล (Nibel) แต่เพราะพายุในคืนนั้นหลุดมาจากต้นไม้นั้น มาพบกับ Naru สิ่งมีชีวิต(ตัวอะไรก็ไม่รู้) แล้ว Naru ก็รับเลี้ยงเหมือนลูกและใช้ชีวิตอย่างสงบ
จนกระทั่งคืนหนึ่งมีแสงจากต้นไม้แห่งวิญญาณเรียกหา Ori แต่ Naru พาไปซ่อน
หลังจากคืนนั้น ต้นไม้ก็เริ่มเหี่ยวแห้งทำให้ทั้งสองไม่มีอาหาร ทำให้ Naru ยอมเสียสละอาหารที่เหลือให้ Ori จนทำให้ Naru ตาย
Ori ก็ออกเดินทางหาที่อยู่ใหม่ แต่ก็หมดแรงตายกลางทาง แต่เพราะอิทธิฤทธิ์ต้นไม้แห่งจิตวิญญาณจึงทำให้กลับมามีชีวิต
หลังจากนั้นเราก็พบกับ Sein เป็นดวงตาและต้นกำเนิดแสงของ Spirit Tree และทำหน้าที่เป็นอาวุธปกป้อง Ori และนำพา Ori ไปหา Spirit Tree จนได้รู้ว่า ในค่ำคืนพิธีแสงศักษ์สิทธิ์ Kuro นกฮูกดำทมิฬยักษ์ ได้ฆ่าพี่น้อง Ori และได้ได้หยิบ Sein ไปจาก Spirit Tree ขยี้และทิ้งไว้ในหุบเขาหนึ่งจนกว่า Ori จะมาพบ และยังไปรบกวนธาตุแสงทั้ง 3 จนเกิดการไม่เสถียร ทำให้ป่า Nibel เกิดความยุ่งเหยิง และได้มอบหน้าที่ให้ Ori ไปที่ ต้นไม้กินโซ ที่อยู่ของธาตุแห่งน้ำ ซากปรักหักพังฟอรลอน ที่อยู่ของธาตุแห่งลม ภูเขาโฮรุ ที่อยู่ของธาตุแห่งไฟ ให้ธาติทั้ง 3 กลับเสถียรดังเดิม และนำแสงกลับสู่ต้นไม้แห่งจิตวิญญาณ
Ori And The Blind Forest เป็นเกมแนว action-platformer เล่นในด่านยักษ์ เน้นสกิล platforming และการ reflex ที่เร็วในการเดินทาง คล้ายเกมสมัยก่อนที่เลือดไม่ฟื้นให้เอง และ บอกแนวทางนิดนึง ให้ไปผจญภัยหาเอา ความยากปานกลาง พอเล่นไปเรื่อยๆ จะได้ความสามารถใหม่ๆ แบบเกม metroid
พอเปิดเกมจะรู็สึกถึงความเพราะของเพลงขึ้นมาทันที และพอเข้าอินโทร แค่เห็นภาพก็รู็สึกว่า art style ของเขาสวยมาก 10/10 ทันที ไม่ต้องคิด
มีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ ชวนติดตาม พอเริ่มจะเศร้าแล้วหลังๆจะรู้สึกกับความยิ่งใหญ่พร้อมกับภาพที่เน้นการใช้แสงและดนตรีที่ฟังแล้วรื่นหู แต่แค่ว่าเกมเพลย์นั้นบางทีจะไม่รู้ว่าต้องทำอะไร หลงทาง หรือไม่ก็รู้สึกว่าไม่รู้จะไปไหนเพราะเกมนี้เน้นการผจญภัยแบบสมัยก่อนจึงมีบางช่วงที่จะหลงทาง และเพราะการที่ไม่มี autosave จึงทำให้บางคนที่ติดนิสัยไม่เซฟบ่อยๆ แล้วตาย (เกมนี้ไม่ถึงกับยาก แต่ก็เน้นสกิล platforming) จนกลับไปจุดเรื่มๆ หัวเสียได้เหมือนกัน
และตอนนี้ได้ออกเวอร์ชั่น definitive ที่มีเนื้อหาเพิ่่ม ในราคา 362 บาทใน steam
เหมาะสำหรับผู้เล่น
-ใจเย็น กับการตาย (หรือ เล่น platformer เก่ง)
-มีไหวพริบ รู้ว่าจะไปที่ไหนอย่างไร และในการหา secret
-ผู้เล่นที่ชอบเกมแนว metroidvania (เก็บความสามารถไปเรื่อยๆ)
Welcome, child. 